วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2553

past simple

ศัพท์ที่ใช้ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอดีดต ดังนี้

ฤดูกาลต่างๆ

ฤดูกาลต่างๆ ในภาษาอังกฤษมีดังนี้

                 spring  ฤดูใบไม้ผลิ  autumn (UK)
                                                  fall (US)
                 summer  ฤดูร้อน        
                 winter     ฤดูหนาว

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เดือน มรกคม-ธันวาคม

เดือนต่างๆ
  • January มกราคม
  • February กุมภาพันธ์
  • March มีนาคม
  • April เมษายน
  • May พฤษภาคม
  • June มิถุนายน
  • July กรกฏาคม
  • August สิงหาคม
  • September กันยายน
  • October ตุลาคม
  • November พฤศจิกายน
  • December ธันวาคม
การฝึกฝน

    พยายามพูดเดือนต่างๆให้เป็นภาษาอังกฤษ และ สลับเดือนกัน หัดฝึกพูดกับเพื่อนเราบ่อยๆ

ป้ายและประกาศต่างๆ แบบตรงกันข้าม

ป้ายและประกาศที่มีคำตรงกันข้าม ได้แก่
  • hot = ร้อน cold =เย็น
  • open = เปิด closed = ปิด
  • vacant = ว่าง engaged = ไม่ว่าง
  • push = ผลัก pull = ดึง
  • entrance,wayin, = ทางเข้า exit,way out = ทางออก

วันต่างๆ

วันต่างๆ ในหนึ่งสัปดาห์
  • Monday = วันจันทร์
  • Tuesday = วันอังคาร
  • Wednesday = วันพุธ
  • Thursday = วันพฤหัส
  • Friday = วันศุกร์
  • Saturday = วันเสาร์
  • Sunday = วันอาทิตย์
การฝึกฝน

เราสามารถฝึกฝนวันต่างๆได้โดยการพยายามพูดวันต่างๆ ให้เป็นภาษาอังกฤษ บ่อยๆ และพยายามอย่าหลงสลับวันกันระหว่าง Tuesday กับ Thursday เด๋วจะงง?? เอานะจ๊ะ

การทักทายผู้อื่นในเวลาตางกัน

การทักทายเราจะกล่าวคำว่า  Good morning (อรุณสวัสดิ์) สามารถใช้ได้จนถึงประมาณสิบสองนาฬิกาหรือเที่ยงวันหลังจากเที่ยงวันจนถึงประมาณหกโมงเย็นจะทักทายว่า Good afternoon (สวัสดี) และใช้ Good evening (สวัสดี) หลังจากหกโมงเย็นเป็นต้นไป

  • Good morning.
  • Good afternoon.
  • Good evening.

สีต่างๆ

สีต่างรอบที่อยู่รอบตัวเรา เมื่อเราต้องการจะถามว่าสิ่งนั้นสีอะไร เราจะใช้คำถามว่า What colour is it? นั่นมันสีอะไร.

  • red = สีแดง
  • blue = สีฟ้า
  • yellow = สีเหลือง
  • green = สีเขียว
  • orange = สีส้ม
  • brown = สีน้ำตาล
  • white = สีขาว
  • black = สีดำ
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน ใช้คำว่า Color
ภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ใช้ คำว่า Colour

เลข 11 ถึง 20

นับจำนวนเลข 11 ถึง เลข 20

  • 11 eleven
  • 12 twelve
  • 13 thirteen
  • 14 fourteen
  • 15 fifteen
  • 16 sixteen
  • 17 seventeen
  • 18 eighteen
  • 19 nineteen
  • 20 twenty
การฝึกฝน
  •  นับถอยหลังตั้งแต่เลขยี่สิบถึงสิบเอ็ด
  • นับเฉพาะเลขคู่
  • นับเฉพาะเลขคี่
  • นับสิบเอ็ดถึงยี่สิบแบบเร็วขึ้น

กริยาลดรูป

ในภาษาการพูดทั่วๆไปนั้นกริยาจะถูกลดรูปลงดังนี้
  • I am = I'm
  • You are =  you're
  • he is = he's
  • she is = she's
  • it is = it's
  • we are = we're
  • they are = they're

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ไวยากรณ์เบื้องต้น1

บุรุษสรรพนาม(ประธาน)

เอกพจน์
     I ฉัน
     you คุณ,เธอ,ท่าน
     he เขา(ผู้ชาย)
     she เธอ(ผู้หญิง)
     it มัน "สัตว์/สิ่งของ"

พหูพจน์
     we เรา
     you คุณ
     they พวกเขา

กริยา to be รูป Present tense กริยา to be รุป present tense เมื่อใช้กับประโยคบอกเล่า

I am ฉันเป็น
you are คุณเป็น
he is เขาเป็น
she is เธอเป็น
it is มันเป็น
we are (พวก) เราเป็น
they are (พวก) เขาเป็น

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ป้ายและประกาศต่างๆ

เมื่อคุณไปเที่ยวในประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกานั้นคุณจำเป็นต้องรู้จักป้าย ห้าม และ ป้ายประกาศต่างๆ พอสมควรจะคล้ายๆกับเมืองไทย เช่น
  • No smoking. ห้ามสูบบุหรี่
  • Stop. หยุด
  • Women ผู้หญิง
  • Men ผู้ชาย
  • Tickets. ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร(ตั๋ว)
  • Bus stop. ป้ายหยุดรถโดยสารประจำทาง(รถเมลล์)
  • Reserved. การจองสำรอง(จองแล้ว)
  • Telephone. ตู้โทรศัพท์
  • Taxi. รถรับจ้าง
การฝึกฝน

     หาคำศัพท์และวลีภาษาอังกฤษทีอยู่รอบตัวคุณที่ใช้ในชีวิตประจำวันเช่น ป้ายรถเมลล์ ป้ายจราจร ป้ายประกาศ และ ฉลากต่างๆ และจงเป็นคนช่างสังเกตุอยู่เสมอ ปัจจุบัน ป้ายบอกทางในกรุงเทพฯหรือ ต่างจังหวัดส่วนมากจะมี ภาษาอังกฤษ ในอ่านควบคู่กันเสมอ ฝึกฝนบ่อยแล้วจะเก็ตเอง(ขอบอก)

หมายเลขโทรศัพท์

     หมายเลขโทรศัพท์ภาษาอังกฤษจะอ่านเรียงทีละหลัก ในอังกฤษจะออกเสียง เลข 0 ว่า /au/ แต่ในขณะที่สหรัฐอเมริกามักจะอ่านว่า zero

อังกฤษ : four-o-nine-o-six-eight-eight. "4090688"
สหรัฐอเมริกา : four-zero-nine-zero-six-eight-eight. "4090688"
  


การฝึกฝน

  •  คุณสามารถฝึกฝนโดยพูดหมายเลขโทรศัพท์ของเพื่อนๆ เป็นภาษาอังกฤษได้ฝึกบ่อย
  •  ทุกครั้งที่โทรหาเพื่อนๆ พยายามฝึกพูดเบอร์โทรเป็นภาษาอังกฤษ

อาชีพต่างๆ

เมื่อเราทักทายกัน ชื่อนามสกุลและสัญชาติแล้ว อาชีพจะเป็นเรื่องต่อมาที่จะถามกัน โดยจะใช้คำถามว่า What do you do? "คุณมมีอาชีพอะไร"  คำตอบจะขึ้นต้นด้วยคำว่า I'm a/an police "ฉันเป็นตำรวจ" เป็นต้น
  
     คำถามที่ว่า What do you do? มีความหมายว่า "คุณทำอะไร" และเราสามารถถามได้อีกแบบว่า What's your job?  "คุณมีอาชีพอะไร" โดยคาดว่าผู้นั้นมีอาชีพการงานอยู่แล้ว.

    เมื่อคุณตอบคำถามนี้อย่าลืมเติม Indefinite Article คือ a หรือ an นำหน้าคำนามด้านอาชีพ เช่น I'm a teacher. I'm an engineer. 

    Indefiite Article ในภาษาอังกฤคือ a ใช้หน้าคำที่มีเสียงพยัญชนะ (a teacher, an office)


คำศัพท์ที่ควรทราบ
  • What do you do? "คุณมีอาชีพอะไร?"
  • I work "ฉันทำงาน"
  • Job "อาชีพ"
  • London "ลอนดอน" 
  • New York "นิวยอร์ก"
  • Postman "บุรุษไปรษณีย์"
เกี่ยวกับอาชีพ
  • bank "ธนาคาร"
  • shop "ร้านค้า"
  • factory "โรงงาน"
  • office "สำนักงาน"
  • teacher "ครู"
  • doctor "แพทย์"
  • nurse "พยาบาล"
  • engineer "วิศวกร"
การฝึกฝน

     ถ้าคุณมีเพื่อนที่อยุ่ในสาขาอาชีพด้านบนคุณสามารถฝึกฝนกับเพื่อนของคุณได้ แต่ถ้าไม่มีในรายการคุณสามารถหาในพจนานุกรมได้

ประเทศและสัญชาติ

เมื่อเริ่มสนทนา คำถามว่า Where are you from? (คุณมาจากที่ไหน) คุณสามารถตอบโดยบอกชื่อประเทศของเราได้ เช่น I'm from Thailand (ฉันมาจากประเทศไทย) หรือจะบอกสัญชาติได้เลยโดยใช้ประโยค I'm THAI(ฉันเป็นคนไทย)  ตัวอย่าง

  • I'm from England. "ฉันมาจากประเทศอังกฤษ"
  • I'm from Japan. "ฉันมาจาประเทศญี่ปุ่น"
  • I'm from Spain. "ฉันมาจากประเทศสเปน"
  • I'm from Brazil. "ฉันมาจากประเทศบลาซิล"
บ่งบอกถึงสัญชาติ
  • I'm English. "ฉันเป็นคนอังกฤษ"
  • I'm Japanese. "ฉันเป็นคนญี่ปุ่น"
  • I'm Spanish. "ฉันเป็นคนสเปน"
  • I'm Brazilian. "ฉันเป็นคนบราซิล"

วิธีการบอกชื่อนามสกุล

ภาษาอังกฤษไม่เหมือนกับบางภาษา จะบอกชื่อ (First name) ก่อนนามสกุล (Family name) ทั้งในการพูดและการจ่าหน้าซองจดหมาย ถ้าคุณต้องการทราบชื่อของใครคนหนึ่ง ให้ถามว่า What is your name? "คุณชื่ออะไรครับ/คะ"
ซึ่งคำตอบจะขึ้นต้นด้วยคำว่า My name is... "ผมชื่อ/ดิฉันชื่อ..." 
    
     คำว่า "ของคุณ/ของท่าน" your จะมีเพียงรูปเดียวไม่ว่าจะเป็นการพูดแบบสุภาพหรือเป็นกันเอง เราจะพบรูปแบบของการลดรูป เช่น 's ใช้แทน is บ่อยมากและเป็นปกติในภาษาอังกฤษโดยเฉพาะในการพูด.


ตัวอย่าง

  • Hello My name's Lisa Maxine. "สวัสดีฉันชื่อ ลิซ่า แม็กซีน
  • What's your family name? "นามสกุลคุณ?"
  • What's your first name? "ชื่อของคุณ?"
  • Thank you. "ขอบคุณ"


คำศัพท์ที่ควรทราบ
    
  • My name is... "ผม/ดิฉันชื่อ" (แบบเป็นทางการ)
  • My name's..."ผม/ดิฉันเชื่อ" (แบบเป็นกันเอง)
  • What is your name? "คุณชื่ออะไร" (แบบเป็นทางการ)
  • What's your name? "คุณชื่ออะไร" (แบบเป็นกันเอง)
  • family name "นามสกุล"
  • firs name "ชื่อ"

วิธีการกล่าวทักทายและอำลา

วิธีทักทายและการลาจาก

Hello.     How do you do สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก?? (แบบไม่เป็นกันเอง คือ บุคคลที่ไม่สนิทกันพึ่งรู้จักกัน)
Hi!         Nice to meet you.  สวัสดี ยินดีที่ได้รู้จัก? (แบบเป็นกันเอง)

Goodbye. (ลาก่อน)
Bye! (แบบเป็นกันเองคนที่สนิทกันแล้ว)

Hello (สวัสดี)
Hi! (หวัดดี)

Hi! เป็นคำพูดแบบเป็นกันเองมากกว่า Hello.
Nice to meet you เป็นกันเองมากกว่า How do you do?
Bye! เป็นกันเองมากกว่า Goodbye.


การฝึกฝน

     พยายามใช้คำและสำนวนภาษาอังกฤษที่ได้เรียนพูดคุยทักทายกับเพื่อนคุณและเวลากล่าวลา 


ศัพท์

  • Hello. สวัสดี
  • Hi! หวัดดี
  • How do you do? ยินดีที่ได้รู้จัก
  • Nice to meet you. ยนดีที่ได้รู้จัก
  • Goodbye. ลาก่อน
  • Bye! ไปแร่ะ
 
        

ศัพท์และสำนวณ Yes No Thank you.

ในระดับนี้คุญจะได้เรียนรู้คำและวลีสั้นๆ ที่มักจะใช้ในการสนทนาประจำวัน เช่น Yes(ใช่)  NO(ไม่ใช่)  Please(กรูณา) Thank you(ขอบคุณ)

การถามว่า Tea? หรือ Coffee? เป็นการถามแบบเป็นกันเอง สังเกตว่าวิธีการถามเช่นนี้หางเสียงต้องสูงขึ้นด้วย
 เช่น ประโยคต่อไปนี้
  • Coffee ? ต้องการ กาแฟไหม? ถ้าต้องการ ตอบ Yes please. "ใช่ครับกรุณาเถอะ"
  • Tea? ต้องการ ชาไหม? ถ้าไม่ต้องการ ตอบ No thank you "ไม่ครับขอบคุณ"

การฝึกฝน
     เราสามารถฝึกฝนด้วยพยายามพูดคุยกับเพื่อนๆ จะช่วยให้คุณสามารถพูดภาษาอังกฤษได้โดยอัตโนมัติ


คำศัพท์
  • Yes ใช่
  • No. ไม่ใช่
  • Please. กรุณา/ได้โปรด
  • Thank you. ขอบคุณ
  • tea ชา
  • coffee กาแฟ

การนับจำนวนตัวเลข

การเรีนรู้เกี่ยวกับตัวเลขในภาษาต่างประนั้นมีประโชยน์มาก เพราะต้องใช้ตลอดเวลาในบทนี้เราจะมาเรียนรู้ตัวเลขง่ายๆ เป็นชุดแรก

  1. one /หนึ่ง/
  2. two /สอง/
  3. three /สาม/
  4. four /สี่/
  5. five /ห้า/
  6. six /หก/
  7. seven /เจ็ด/
  8. eight /แปด/
  9. nine/เก้า/
  10. ten /สิบ/

      ในประเทศอังกฤษ เลขหนึ่งและเลขเจ็ด จะเขียนแบบนี้ I และ 7 มากกว่าจะเขียน 1 และ 7 แต่มีคนเริ่มหันมาใช้ 1 และ 7 แบบนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพระสามารถเห็นความแตกต่างของเลขทั้งสอง
การฝึกฝน
  • นับเลขจาหนึ่งถึงสิบเป็นภาษาอังกฤษ
  • นับแบบเดิมแต่ถอยหลังจากสิบถึงหนึ่ง
  • นับเฉพาะเลขคี่
  • นับเฉพาะเลขคู่
  • ควรฝึกเป็นประจำ

วิธีการพูดถึงตัวคุณ เช่น ชื่อ อาชีพและที่อยู่บ้านเกิด

- การพูดถึงตัวคุณเอง เช่น ชื่อ อาชีพและบ้านเกิดเมืองนอน
- การถามข้อมูลข้างต้นจากผู้อื่น
- การกล่าวทักทายและกล่าวลาผู้อื่น
- คำและสำนวนที่ต้องใช้อยู่เสมอ เช่น "ใช่" "ไม่ใช่" "กรุณา" และ "ขอบคุณ" เป็นต้น
- ตัวเลขต่างๆ
- ความหมายของป้ายและประกาศแบบต่างๆ
- การฝึกภาษาอังกฤษ รวมทั้งวิธีการฝึกภาษาด้วยตนเอง
 

ระดับที่ 1 คุณจะได้ปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ

ระดับที่ 1 คุณจะได้ปูพื้นฐานภาษาอังกฤษและเรียนรู้ภาษาขั้นเอาตัวรอด โดยเน้นคำพูดที่ใช้กันส่วนมาก เพื่อจะนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้เลย


แนะนำตัวกันหน่อย

เห็นเขาทำบล็อกกันทั่บ้านทั่วเมืองเลยอยากทำกับเขาบ้างถ้าว่าจะทำเกี่ยวกับประวัติตัวเองดูเหมือนว่ามันจะไม่พอที่จะเขียนลงไปในนี้ 5555+ เอาเป็นว่า เขียนเกี่ยวกับการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองดีกว่าเพราะว่าตัวผมเองอยากเรียนรู้ภาษาอังกฤษ พูดได้ อ่านได้ เหมือนคนอื่นเขา เวลาเจอฝรังจะได้ไม่กลัวที่จะพูด เอาเป็นว่าถ้าวันไหนผมได้มีโอกาสมีเวลามานั่งเขียนจะค่อยๆ ทะยอยลงทีละนิดทีละหน่อย.