วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2567

ประโยคตอบรับภาษาอังกฤษไม่แค่คำว่า Yes

ประโยคตอบรับภาษาอังกฤษไม่แค่คำว่า Yes อย่างเดียวโดยมีประโยคอย่างที่ทำให้เราพูดแล้วคนรับสารรู้สึกดีถ้าได้ยินคำเหล่านี้ 

  • Right ,ใช่

  • That’s righ ถูกต้อง

  • I see  : เห็นด้วย

  • Eactly ใช่เลย

  • Absolutely เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นด้วยทั้งหมด

  • Definitely ใช่เลย ใช่แน่นอน

  • Cool! มันดีมากๆ มันเจ๋ง

  • Nice! มันดีมากๆ มันเจ๋ง

  • Sounds good! 

  • Sounds great!  ฟังดูดี ฟังดูเข้าท่า

  • Wonderfu!l มันสวยงาม

  • Fantastic! มันเจ๋งมากๆ 

  • Awesome! มันสุดยอด

  • Amazing! มันดูเจ๋งมากๆ

  • Lovely! สุดยอด

  • Really? จริงไหมนี่

  • Seriously? จริงไหมนี่

  • That’s insane, That’s unbelivable ไม่น่าเชื่อ



เห็นด้วย

ดีจัง

Yes.

Cool.

Right.

Nice.

That’s right.

Great.

I see.

Sounds good.

Exactly.

Sounds great.

Absolutely.

Wonderful.

Definitely.

Fantastic.


Awesome.


Amazin.


Lovely.



วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567

การใช้ "a" และ "an"

 การใช้ **"a"** และ **"an"** ขึ้นอยู่กับเสียงแรกของคำที่ตามหลังมา ไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวสะกดของคำเท่านั้น ซึ่งมีกฎง่ายๆ ดังนี้:


1. **ใช้ "a"** กับคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ

   - ตัวอย่าง

     - **a book**

     - **a car**

     - **a university** (แม้ว่า "u" จะเป็นสระ แต่ในที่นี้ออกเสียง "ยู" ซึ่งเป็นเสียงพยัญชนะ)


2. **ใช้ "an"** กับคำที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ (a, e, i, o, u)

   - ตัวอย่าง:

     - **an apple**

     - **an egg**

     - **an hour** (แม้ว่า "h" จะเป็นพยัญชนะ แต่ "hour" ออกเสียงเป็น "อาวร์" เริ่มด้วยเสียงสระ)

     - **an umbrella**


ข้อควรจำ:

- สำคัญคือต้องใส่ใจกับเสียงที่ออกเสียงในคำแรก ไม่ใช่ตัวสะกด


วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567

การเขียน จดหมาย-อีเมลภาษาอังกฤษ แบบเข้าใจง่าย

การเขียนคำขึ้นต้นจดหมาย/อีเมลอย่างเป็นทางการ

  • “To Whom It May Concern:” = ใช้เมื่อไม่ทราบชื่อผู้รับจดหมาย
  • “Dear Sir/Madam,” = ใช้เมื่อเขียนถึงตำแหน่งโดยไม่ต้องมีชื่อผู้รับ
  • “Dear Mr Graham,” = ใช้เมื่อรู้จักชื่อและเพศของผู้รับว่าเป็นผู้ชาย
  • “Dear Ms Sunny,” = ใช้เมื่อรู้จักชื่อและเพศของผู้รับว่าเป็นผู้หญิง (และควรระวังไม่ควรใช้ Mrs. แบบเก่า)
  • “Dear Dr Susan,” = ใช้เมื่อผู้รับมีตำแหน่งเป็นแพทย์ หรือดุษฎีบัณฑิต
  • “Dear Prof Jon,” = ใช้เมื่อผู้รับมีตำแหน่งเป็นศาสตราจารย์
  • “Dear Pual Macdonal,” = พิมพ์ชื่อเต็มเมื่อไม่แน่ใจเพศของผู้รับ



การเกริ่นนำจดหมาย หรืออีเมล เพื่อแจ้งให้ทราบ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

  • I’m writing to tell you that …
  • I’m writing to inform you that …
  • This is to make you aware that …
  • I want to fill you in on …
  • Please be advised that …



1. Heading (หัวจดหมายภาษาอังกฤษ)

หัวจดหมายคือที่อยู่ของผู้เขียนจดหมาย และวันที่ที่เขียนจดหมาย ซึ่งนิยมเขียนไว้บนมุมด้านขวาหรือซ้ายของจดหมายก็ได้


2. Inside Address (ชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมายภาษาอังกฤษ)

ชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมายภาษาอังกฤษซึ่งเขียนหรือพิมพ์ไว้ทางด้านซ้ายบน ถัดจากหัวจดหมายลงมาจะปรากฏเฉพาะในจดหมายธุรกิจเท่านั้น สำหรับรูปแบบการเขียนเหมือนกับหัวจดหมาย


3. Solution (คำขึ้นต้นจดหมายภาษาอังกฤษ)

คำขึ้นต้นจดหมายในภาษาอังกฤษ เปรียบเสมือนคำทักทายเพื่อเริ่มต้นจดหมาย ต้องเขียนหรือพิมพ์ไว้ริมซ้ายของกระดาษด้านบนต่อจากหัวจดหมาย สำหรับจดหมายติดต่อระหว่างบุคคล และต่อจากชื่อที่อยู่ของผู้รับจดหมาย สำหรับจดหมายธุรกิจ คำขึ้นต้นจดหมายอาจเขียนได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับบุคคลที่เราเขียนถึงว่ามีความสัมพันธ์กับผู้เขียนอย่างไร


3.1 คำขึ้นต้นสำหรับญาติผู้ใหญ่

My dear…………………….. , เช่น

My dear grandmother, (ย่า, ยาย)

My dear father, (พ่อ)

My dear uncle, (ลุง)

My dear mother, (แม่)


3.2 คำขึ้นต้นสำหรับญาติที่อายุอ่อนกว่า

Dear………… ,

My dear……………..,

My dearest……………..,

เช่นMy dearest son, (ลูก)My dear Jim, (ระบุชื่อญาติ)


3.3 คำขึ้นต้นสำหรับญาติ, เพื่อน, ผู้รู้จัก ซึ่งมีวัยใกล้เคียงกัน Dear………… ,

My dear…………….., นิยมระบุชื่อ เช่นDear Surapong,Dear friend, (เพื่อน)


3.4 คำขึ้นต้นสำหรับบุคคลโดยทั่วๆ ไป

ที่ทราบชื่อแต่ไม่รู้จักกันอย่างสนิท ถ้าเป็นชาวต่าง ประเทศจะระบุคำนำหน้าชื่อพร้อมนามสกุล แต่ถ้าเป็นคนไทยอาจระบุชื่อแทนนามสกุลได้ เช่น

Dear…………?

Dear Dr.Young, (Dr. J.N. Young)

Dear Mrs.Supranee,

Dear Mr.Ferrari (Mr. D.F. Ferrari)


3.5 คำขึ้นต้นสำหรับผู้ใหญ่ที่รู้จัก นับถือ Dear…………,

Dear Sir, (ผู้ชาย)

Dear Madam, (ผู้หญิง)

Dear teacher, (ครู)

Dear Mistress, (นายผู้หญิง)


3.6 คำขึ้นต้นสำหรับบุคคลที่มีตำแหน่งหน้าที่พิเศษ

Your Excellency, (ทูต, รัฐมนตรี)

Dear lady, Your Excellency, (ภริยาทูต, รัฐมนตรี)

Dear Mr. President, (ประธานาธิบดี)

Your Majesty,May it please your Majesty,Sir, Dear Mr. Speaker, (ประธานสภาผู้แทนราษฎร)


3.7 คำขึ้นต้นจดหมายธุรกิจ

Dear Sir , Sir , Gentleman , Dear………., (ถ้ารู้จักชื่อ)


4. Body of letter (ตัวจดหมายภาษาอังกฤษ)

ตัวจดหมาย คือ ข้อความของจดหมายซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของจดหมาย เพราะเป็นการสื่อความประสงค์ระหว่าง โดยข้อความในจดหมายปกติแล้วจะแบ่งเป็น 3 ตอน

4.1 ความนำ แสดงการแนะนำตัวหรือบอกสาเหตุ

4.2 เนื้อความ บอกวัตถุประสงค์

4.3 สรุป เขียนสรุปเรื่องหรือความมุ่งหวังในอนาคต


5. Complimentary Close (คำลงท้ายจดหมายภาษาอังกฤษ)

เมื่อเขียนจดหมายจบแล้ว ต้องมีคำลงท้าย ซึ่งมีหลายแบบขึ้นอยู่กับผู้รับ สำหรับที่นิยมกันโดยทั่วไปได้แก่

Yours sincerely, Sincerely yours,

Sincerely, = ด้วยความจริงใจ

With love,With much love,Love, = ด้วยความรัก


6. Signature (การลงนามจดหมายภาษา)อังกฤษ

การ ลงนามของผู้เขียนจดหมาย แสดงให้รู้ว่าใครเป็นผู้เขียนจดหมายนั้น ถ้าเป็นจดหมายส่วนตัว อาจเขียนชื่อหรือทั้งชื่อและนามสกุลในลักษณะหวัด หรือหวัดแกมบรรจง หรืออาจเป็นลายเซ็น (สำหรับบุคคลที่คุ้นเคยมาก ๆ) แต่สำหรับจดหมายธุรกิจนั้น ถัดจากคำลงท้ายจะเป็นลายเซ็น ถัดลงมาจะเป็นชื่อนามสกุลตัวบรรจง ถัดจากชื่ออาจเป็นตำแหน่ง


7. Outside address (การจ่าหน้าซองจดหมายภาษาอังกฤษ)

การจ่าหน้าซองจดหมายคือการเขียนที่อยู่ของผู้รับ (outside address) ซึ่งอาจเขียนได้ 2 แบบ คือ แบบขั้นบันได (Step) ซึ่งย่อเข้ามาทีละบรรทัด กับแบบบล็อก (Block)

**หากมีข้อสงสัยกรุณาติดต่อกลับมาที่ เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ได้ประมานว่า


If you need any further assistance or technical support, call us at xxx-xxxxxxx day or night, or email us at xxx@xxx.com หรือ If you have any questions, please feel free to:

* Contact Customer Support at (xxx) xxx-xxxx

* Email us at xxx@xxx.com


ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่ควรเขียนในจดหมาย หรืออีเมล แบบเป็นทางการ

I am writing in reply to your letter of 10 February regarding your outstanding invoice.

ผม/ดิฉันเขียนมาเพื่อตอบกลับจดหมายของคุณที่เขียนมาเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ เกี่ยวกับใบแจ้งหนี้ค้างชำระ


Further to our conversation, I’m pleased to confirm our appointment for 10.30 am on Wednesday, 5 January.

จากการสนทนาของเรา ดิฉัน/ผมยินดีที่จะยืนยันนัดของเราในวันพุธที่ 5 มกราคม เวลา 10.30 น. ครับ/ค่ะ


I would be grateful if you could attend to this matter as soon as possible.

ผม/ดิฉันคงจะยินดีมากหากคุณจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด


If you would like any further information, please don’t hesitate to contact me.

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อผม/ดิฉัน


ในกรณีที่ต้องการให้ผู้อ่านตอบกลับ สามารถใช้ประโยคภาษาอังกฤษต่อไปนี้ในตอนท้ายของจดหมายหรืออีเมล

I look forward to hearing from you.

ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบกลับจากคุณ



ขอบคุณ : scholarship.in.th/Englishtoanrmon/edufirstschool


วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

รวมคำศัพท์เกี่ยวกับ สภาพอากาศที่เราประสบบ่อยๆ ภาษาอังกฤษ

 

บางครั้งเรามักจะประสบสภาพอากาศใน1วันหลายๆ สถานการณ์ เช่น  ลมพัด ลมแรง ร้อน ชื้น เป็นต้น


คำศัพท์

คำอ่าน

คำแปล

Breeze

/briːz/

ลมพัดเบา

Clear

/’klir/

สดใส/ปลอดโปร่ง

Climate

/ˈklaɪmət/

สภาพอากาศ

Drizzle

/ˈdrɪzl/

ฝนตกโปรยปราย

Dry

/draɪ/

แห้ง

Frost

/frɒst/

น้ำค้างแข็ง/หนาวจัด

Gale

/geil/

ลมแรง

Humid

/ˈhjuːmɪd/

ชื้น/ชุ่มชื้น

Icy

/ˈaɪsi/

ซึ่งเย็นเยือก

Mild

/maild/

เบา/ไม่รุนแรง

Overcast

/ˈoʊ.vɚ.kæst/

มืดครึ้ม/มีเมฆมาก

Partly sunny

/’pa:tli/ /ˈsʌni/

มีแดดบางส่วน

Rainbow

/ˈreɪnbəʊ/

รุ้ง

Raindrop

/ˈreɪndrɒp/

หยดน้ำฝน /เม็ดฝนปรอยๆ

Torrential rain

/tɔ.ˈrɛnt.ʃəl/ /rein/

ฝนตกหนัก

Stormy

/ˈstɔːmi/

มีพายุ

Sunny

/ˈsʌni/

แดดจัด/แดดแรง

Sunshine

/’sʌnʃain/

แสงแดด

Wet

/wet/

เปียก

Wind

/wɪnd/

ลม

Windy

/ˈwɪndi/

ลมแรง

Wind Chill

/wind/ /tʃɪl/

ความหนาวเย็นและแรงปะทะของลม

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

การตอบรับทราบแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ

 

การตอบรับทราบแบบสั้นๆแต่ได้ใจความ

  • Acknowledged.
  • Thank you very much.
  • Thank you for your information
  • Thanks for the update
  • Thank you for the updated information
  • Thank you. I look forward to participating.
  • Thank you for your email.
  • Yes!!
  • Received!!
  • Received with thanks.
  • Okay, thanks for sending this. It’s really helpful.
  • I’ll add this to my task list and let you know when it’s complete.
  • I have received your email.
  • I acknowledge the receipt of your below email.
  • I acknowledged with thanks having received your email.
  • Thanks for letting me know
  • Don’t worry.
  • Well noted.
  • Noted.
  • Noted sir.
  • Noted with thanks.
  • Well noted.
  • Your email was well received.

 

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Present Simple: He, She, It

Affirmative sentence: 

  • He gets up at 9 o’clock
  •  She goes to bed at 9 o’clock. 
  • It plays a doll.
 

-s


-es


-ies

 get up     gets up
 work        works
 eat          eats
 play         plays
 wear       wears

 go          goes
 wash      washes
 watch    watches
 study      studies
 fly          flies
 cry         cries


 Present Simple (He, She, It)
ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เป็นประจำทุกวัน
ในประโยคบอกเล่า หากประธานของประโยคเป็นเอกพจน์ (He, She, It) จะต้องเติม -s ต่อท้ายคำกริยา
ตัวอย่าง เช่น
  • He Drinks milk every day.
  • She plays basketball in the afternoon.
หากคำกริยาลงท้ายด้วยอักษร -e เราสามารถเติม -s ต่อท้่ายคำกริยาได้เลย
  • He likes hamburgers.
  • It lives in the jungle.
หากคำกริยาลงท้ายด้วยสระและ -y เราสามารถเติม -s ต่อท้ายได้เลย
  • She plays tennis after school.
หากคำกริยาลงท้ายด้วยพยัญชนะและ -y ให้ตัดพยัญชนะ y ทิ้งไปแล้วเติม -ies ต่อท้ายคำกริยา
  • He studies English on Friday.