กริยาที่ใช้ในการตั้งคำถามเพื่อนให้สุภาพมากขึ้น
-could you....,please?
-Could I disturb you for a moment?
-May I "..........................................."
-Might I ".........................................."
-Would you like to....?
สำนวณอื่นๆ ที่ใช้แสดงความสุภาพ
-I don't quite understand.
-I don't really like this music.
-I'm afraid I don't know.
วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2554
การใช้กริยาเพื่อให้สุภาพมากขึ้น
วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554
Politeness.
มีหลายวิธีพูดภาษาอังกฤษให้ดูสุภาพและหลีกเลี่ยงการพูดที่ดูห้วนเกินไป
วิธีการพูดให้ดูสุภาพ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้
- การแสดงออกทางหน้าตาและน้ำเสีงของผู้พูดจะมีส่วนในการสร้างความประจำใจเป็นอย่างยิ่ง การพูดที่ถือว่าไม่ค่อยสุภาพหรือห้วน เกินไปจะสามารถทำให้ "อ่อนลง" ได้โดยการยิ้มอย่างเป็นมิตร และ การใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง
- เมื่อคุณพูดภาษาต่างประเทศ ผู้อื่นจะยินดีที่จะมองข้ามสำนวนที่คุณ พูดแล้วไม่สุภาพ ในขณะที่ผู้พูดเป็นเจ้าของภาษาเองจะดูไม่สุภาพเลย
วิธีต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำที่คุณจะสามาถทำให้คำพูดของคุณฟังดูสภาพ
1. ใช้คำว่า Please หรือคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Clould you....? ดีกว่าใช้ประโยคคำสั่ง เมื่อต้องการขอร้องใครบางคนให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
2. ใช้คำถามที่เริ่มต้นด้วย Could I...? May I...? หรือ Might I...? ดีกว่าคำถามที่เริ่มต้นด้วย Can I...? เมื่อต้องการขออนุญาต
3. ใช้สำนวน I'd rather you didn't. ดีกว่า Yes, I do mind. เมื่อต้องการที่จะไม่อนุญาตให้คนอื่นทำในสิ่งที่เขาขอร้องด้วยคำถามที่ขึ้นต้นว่า Do you mind if I...?
4. ใช้รูปกริยา will be..ing ดีกว่า going to หรือ present continuous เมื่อต้องการถามถึ่งสิ่งที่คนอื่นจะทำในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจะต้องการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
5. กับคนที่คูไม่รู้จักดีควรใช้สำนวนที่เป็นทางการดีกว่าสำนวนที่เป็นกันเอง
6. ใช้สำนวนเพื่อทำให้สิ่งที่คุณพูดนั้นดูอ่อนโยน
7. คุณทราบแล้วว่า จะใช้กริยารูปอดีตกาล (past tense) แทนรูปปัจจุบันกาล (present tense) ในคำถามเพื่อแสดงความสุภาพ เช่น Who did you want to speak to ?
วิธีการพูดให้ดูสุภาพ 2 ประเด็นใหญ่ๆ ดังนี้
- การแสดงออกทางหน้าตาและน้ำเสีงของผู้พูดจะมีส่วนในการสร้างความประจำใจเป็นอย่างยิ่ง การพูดที่ถือว่าไม่ค่อยสุภาพหรือห้วน เกินไปจะสามารถทำให้ "อ่อนลง" ได้โดยการยิ้มอย่างเป็นมิตร และ การใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง
- เมื่อคุณพูดภาษาต่างประเทศ ผู้อื่นจะยินดีที่จะมองข้ามสำนวนที่คุณ พูดแล้วไม่สุภาพ ในขณะที่ผู้พูดเป็นเจ้าของภาษาเองจะดูไม่สุภาพเลย
วิธีต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำที่คุณจะสามาถทำให้คำพูดของคุณฟังดูสภาพ
1. ใช้คำว่า Please หรือคำถามที่ขึ้นต้นด้วย Clould you....? ดีกว่าใช้ประโยคคำสั่ง เมื่อต้องการขอร้องใครบางคนให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด
2. ใช้คำถามที่เริ่มต้นด้วย Could I...? May I...? หรือ Might I...? ดีกว่าคำถามที่เริ่มต้นด้วย Can I...? เมื่อต้องการขออนุญาต
3. ใช้สำนวน I'd rather you didn't. ดีกว่า Yes, I do mind. เมื่อต้องการที่จะไม่อนุญาตให้คนอื่นทำในสิ่งที่เขาขอร้องด้วยคำถามที่ขึ้นต้นว่า Do you mind if I...?
4. ใช้รูปกริยา will be..ing ดีกว่า going to หรือ present continuous เมื่อต้องการถามถึ่งสิ่งที่คนอื่นจะทำในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจะต้องการขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น
5. กับคนที่คูไม่รู้จักดีควรใช้สำนวนที่เป็นทางการดีกว่าสำนวนที่เป็นกันเอง
6. ใช้สำนวนเพื่อทำให้สิ่งที่คุณพูดนั้นดูอ่อนโยน
7. คุณทราบแล้วว่า จะใช้กริยารูปอดีตกาล (past tense) แทนรูปปัจจุบันกาล (present tense) ในคำถามเพื่อแสดงความสุภาพ เช่น Who did you want to speak to ?
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สรุปการใช้ any และ anything ในประโยคบอกเล่า
การใช้ some/something และ any/anything สรุปสั้นๆ ได้ดังนี้
1. ความแตกต่างที่สำคัญก็คือ some/something จะใช้ในประโยคบอกเล่าและ any/anything ใช้ในประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
- Some friends are coming to dinner.
- Some old friends called me the other night.
- Some people will never learn anything.
- Are you doing anything tomorrow evening?
2. ในประโยคคำถามจะใช้ some/something เมื่อคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบเห็นด้วยหรือเมื่อผู้พูดต้องการกระตุ้นให้ผู้ฟังยืนตันตอบรับ
- Could we have some bread, please?
- Would you like something to drink?
กฏการใช้เหมือนของ some/something และ any/anything สามารถสังเกตให้ละเอียดขึ้นจากการใช้ any/anything ในรูปประโยคบอกเล่าโดยศึกษาตัวอย่างต่อไปนี้
- Take a card. Any card.
หยิบไฟ่หนึ่งใบ ใบไหนก็ได้
คำว่า anything ก็สามารถใช้ในประโยคบอกเล่าได้เช่นเดียวกับการใช้ any
- I'm really hungry. I'll eat anything.
ฉันหิวมากจริงๆ ฉันจะกินอะไรก้ได้ทั้งนั้น
จากประโยคดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการใช้ any ตามด้วยคำนามมีความหมายว่า "อันไหนก็ได้" และเมื่อใช้ anything ตามลำพังจะมีความหมายว่า "อะไรก็ได้"
ระวังอย่าสับสนการใช้ any/anything กับ no/nothing เปรียบเทียบสุภาษิตต่อไป
- Any publicity is good publicity
การประชาสัมพันธ์อะไรก็ตาม เป็นการประชามสัมพันธ์ที่ดีทั้งนั้น
- No news is good news.
ไม่มีข่าวใดเป็นข่าวดี หรือ อะไรที่ป็นช่าวมักจะเป็นข่าวร้าย
1. ความแตกต่างที่สำคัญก็คือ some/something จะใช้ในประโยคบอกเล่าและ any/anything ใช้ในประโยคปฏิเสธและประโยคคำถาม
- Some friends are coming to dinner.
- Some old friends called me the other night.
- Some people will never learn anything.
- Are you doing anything tomorrow evening?
2. ในประโยคคำถามจะใช้ some/something เมื่อคาดหวังว่าจะได้รับคำตอบเห็นด้วยหรือเมื่อผู้พูดต้องการกระตุ้นให้ผู้ฟังยืนตันตอบรับ
- Could we have some bread, please?
- Would you like something to drink?
กฏการใช้เหมือนของ some/something และ any/anything สามารถสังเกตให้ละเอียดขึ้นจากการใช้ any/anything ในรูปประโยคบอกเล่าโดยศึกษาตัวอย่างต่อไปนี้
- Take a card. Any card.
หยิบไฟ่หนึ่งใบ ใบไหนก็ได้
คำว่า anything ก็สามารถใช้ในประโยคบอกเล่าได้เช่นเดียวกับการใช้ any
- I'm really hungry. I'll eat anything.
ฉันหิวมากจริงๆ ฉันจะกินอะไรก้ได้ทั้งนั้น
จากประโยคดังกล่าวจะเห็นได้ว่าการใช้ any ตามด้วยคำนามมีความหมายว่า "อันไหนก็ได้" และเมื่อใช้ anything ตามลำพังจะมีความหมายว่า "อะไรก็ได้"
ระวังอย่าสับสนการใช้ any/anything กับ no/nothing เปรียบเทียบสุภาษิตต่อไป
- Any publicity is good publicity
การประชาสัมพันธ์อะไรก็ตาม เป็นการประชามสัมพันธ์ที่ดีทั้งนั้น
- No news is good news.
ไม่มีข่าวใดเป็นข่าวดี หรือ อะไรที่ป็นช่าวมักจะเป็นข่าวร้าย
วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Latin origins adn Germanic origins.
การใช้คำที่มีความหมายเหมือนกันแต่มีรูปต่างกันคือคำที่มาจากภาษาละดิน (Latin origin) และอีกคำหนึ่งมาจากภาษาเยอรมัน (Germanic origin) ดังนี้
ในภาษาอังกฤษมีคำที่มีความหมายเหมือกันอยู่หลายคำ คือคำที่มาจากภาษาละตินเช่น commence และคำที่มาจากภาษาเยอรมันเช่น start โดยปกติแล้วมักจะใช้คำที่มาจากรากศัพท์ภาษาละตินในสถานการณ์ที่เป็นทางการมากกว่า ตัวอย่างเช่น การประกาศของโรงละครจะใช้คำว่า commence แทนที่จะใช้คำว่า start
เมื่อพูดถึงการใช้กริยา depart และ leave แม้ว่า 2 สำนวนนี้มีความหมายเหมือนกันแต่การพูดกับพนักงานต้อนรับของโรงแรมว่า I'm departing tomorrow. แทนที่จะใช้คำว่า I'm leaving tomorrow. นั้นฟังดูเป็นทางการมากเกินไป แต่เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าคำที่มาจากภาษาละตินนั้นจะใช้เฉพาะกับสำนวนภาษาทางการเท่านั้น แต่กล่าวได้ว่าสำนวนภาษาทางการอย่างการประกาศนิยมใช้คำที่มาจากภาษาละตินมากกว่า แม้ว่าจะมีอีกคำหนึ่งที่ใช้ได้
ตารางต่อไปนี้มีความอย่างคำที่มีความหมายเหมือนกันโดย (ด้านบนเป็นคำกริยาและด้านล่างเป็นคำคุณศัพท์)
ในภาษาอังกฤษมีคำที่มีความหมายเหมือกันอยู่หลายคำ คือคำที่มาจากภาษาละตินเช่น commence และคำที่มาจากภาษาเยอรมันเช่น start โดยปกติแล้วมักจะใช้คำที่มาจากรากศัพท์ภาษาละตินในสถานการณ์ที่เป็นทางการมากกว่า ตัวอย่างเช่น การประกาศของโรงละครจะใช้คำว่า commence แทนที่จะใช้คำว่า start
เมื่อพูดถึงการใช้กริยา depart และ leave แม้ว่า 2 สำนวนนี้มีความหมายเหมือนกันแต่การพูดกับพนักงานต้อนรับของโรงแรมว่า I'm departing tomorrow. แทนที่จะใช้คำว่า I'm leaving tomorrow. นั้นฟังดูเป็นทางการมากเกินไป แต่เราไม่สามารถกล่าวได้ว่าคำที่มาจากภาษาละตินนั้นจะใช้เฉพาะกับสำนวนภาษาทางการเท่านั้น แต่กล่าวได้ว่าสำนวนภาษาทางการอย่างการประกาศนิยมใช้คำที่มาจากภาษาละตินมากกว่า แม้ว่าจะมีอีกคำหนึ่งที่ใช้ได้
ตารางต่อไปนี้มีความอย่างคำที่มีความหมายเหมือนกันโดย (ด้านบนเป็นคำกริยาและด้านล่างเป็นคำคุณศัพท์)
Latin origin. | Germanic origin. |
arrive | get hare, get there |
The train now arriving at Platform 12.. | What time did you get here? |
commence | begin, start |
The performance will commence in three minutes. | What time does the filem start? |
consult | speak to, ask |
If symptoms persist, consult your doctor3 | I'll have to speak to my boss. |
continue | go on |
If flashing continues | Why does the sun go on shining? |
depart | leave |
The 11.23 to Manchester will depart from Platform 6. | I'm leaving for sweden on Sunday. |
insert | put in |
Insert money until flashing stops. | Quick! Put in some money! |
obtain | get |
Where can I obtain the cards? | Where can I get the cards? |
reserve | book |
I reserved a room | I booked a room. |
return | go back, come back |
Please return to your seat. | Please go back to your seat. |
correct | right |
Insert the correct answers. | Put in the right answers. |
diffecult | hard |
This exercise is quite difficult. | This exercis is quite hard |
large | big |
Small,medium or large? | London's a big city. |
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
คำคุณศัพท์ขั้นสุด
คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียวหรือสองพยางค์บางคำทำเป็นรูปขั้นกว่าได้โดยการเติม –er และคำคุณศัพท์ที่มีหลายพยางค์ให้เติม more ข้างหน้า
จากกฏนี้สามารถนำมาใช้ในการสร้างคำคุณศัพท์ขั้นสุดได้โดยตรงนั่นคือ คำคุณศัพท์ที่ทำเป็นขั้นกว่าโดยการเติม –er จะทำเป็นคำคุณศัพท์ขั้นสุดได้โดยการเติม –est ส่วนคำคุณศัพท์ที่ทำเป็นขั้นกว่าโดยการเติม more นำหน้าก็สามารถทำให้เป็นคำคุณศัพท์ขั้นสุดได้โดยการเติม most นำหน้าเช่นกัน
คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียว
คำคุณศัพท์ที่มีพยางค์เดียวส่วนใหญ่ทำเป็นรูปขั้นกว่าและขั้นสุดได้โดย การเติม –er และ –est ท้ายคำคุณศัพท์ตามลำดับ
could | colder | coldest |
new | newer | newest |
slow | slower | slowest |
small | smaller | smallest |
ในบางกรณีต้องเพิ่มอังกษรตัวสุดท้ายเข้าไปอีกหนึ่งตัวก่อนเติม –er ให้เป็นคำคุณศัพท์ขั้นกว่าและเติม –est ให้เป็นคำคุณศัพทขั้นสุด
big | bigger | biggest |
hot | hotter | hottest |
fat | fatter | fattest |
thin | thinner | thinnest |
คำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย y ถ้าหน้า y เป็นพยัญชนะต้องเปลี่ยน y เป็น i ก่อนแล้วจึงเติม –er หรือ -est
dry | drier | driest |
คำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย e สามารถเติม r หรือ st ได้เลย
large | larger | largest |
late | later | latest |
nice | nicer | nicest |
wide | wider | widest |
และมีคำยกเว้นบางคำเท่านั้นที่ไม่เป็นไปตามกฏดังกล่าว
good | better | best |
bad | worse | worst |
คำคุณศัพท์ที่มีสองพยางค์
คำคุณศัพท์ที่ลงท้ายด้วย y ให้เปลี่ยน y เป็น I ก่อนแล้วจึงเติม –er หรือ –est เพื่อทำให้เป็นคำคุณศัพท์ขั้นกว่าและขั้นสุดท้ายตามลำดับ
early | earlier | earliest |
easy | easier | easiest |
sunny | sunnier | sunniest |
สำหรับคำอื่นที่เหลือให้ใช้คำว่า more และ most นำหน้าคำคุณศัพท์รูปเดิม
careful | more careful | most careful |
famous | more famous | most famous |
surprised | more surprised | most surprised |
คำคุณศัพท์ที่มี3พยางค์ขึ้นไป
โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ที่มี 3 พยางค์ขึ้นไปเป็นขั้นกว่าและขั้นสุดได้โดยใช้คำว่า more และ most หน้าคำคุณศัพท์นั้น
Beautiful | more beautiful | most beautiful |
difficult | more difficult | most difficult |
interesting | more interesting | most interesting |
ยกเว้นเฉพาะคำคุณศัพท์ 3 พยางค์ที่ขึ้นต้นส่วนเติมหน้า (Prefix) un-
unhaapy | unhappier | unhappiest |
more unhappy | most unhappy |
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)